สารทำความเย็น Blue Planet Refrigerant
DAYTONA-1 R134a/R1234yf
เปรียบเทียบประสิทธิภาพและประสิทธิผลทางเทอร์โมไดนามิคส์ พร้อมคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับท่านที่ต้องการ Retrofit เพื่อแทนที่สารทำความเย็น R134a และ R1234yf
Thermodynamic Analysis: DAYTONA-1 vs R134a vs R1234yf
1. Cooling Efficiency (COPc and COPh)
R134a
COPc = 3.897
COPH = 4.897
R1234yf
COPc = 3.583
COPH = 4.583
DAYTONA-1 R134a/R1234yf
COPc = 4.010
COPH = 5.010
DAYTONA-1 R134a/R1234yf มี COP สูงที่สุดทั้งการทำความเย็นและให้ความร้อน สะท้อนถึงความสามารถในการสร้างพลังงานความเย็น/ความร้อนได้มากกว่าในปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่ใช้เท่ากัน — ส่งผลให้ประหยัดพลังงานกว่าอย่างชัดเจนทั้งสองด้าน
---
2. Compressor Power Consumption
R134a: 1.026 kW
R1234yf: 1.116 kW
DAYTONA-1: 0.997 kW
DAYTONA-1 R134a/R1234yf ใช้พลังงานจากคอมเพรสเซอร์น้อยที่สุด แต่ให้ Qevap (Refrigerant Effect) สูงกว่าสะท้อนว่า work ที่ใช้ต่อ 1 กิโลกรัมของสารมีค่าพอเหมาะและมีประสิทธิภาพเชิงพลังงานที่ยอดเยี่ยมกว่าสารทำความเย็นทั้งสองชนิด
---
3. Cooling Effect (Qe) & Condenser Load (Qc)
Qevap (Refrigerant Effect)
R134a: 129.71 kJ/kg
R1234yf: 95.88 kJ/kg
DAYTONA-1 R134a/R1234yf: 158.48 kJ/kg
Qcond (Heat Reject)
R134a: 163.00 kJ/kg
R1234yf: 122.64 kJ/kg
DAYTONA-1 R134a/R1234yf: 198.00 kJ/kg
DAYTONA-1 R134a/R1234yf มีพลังทำความเย็น (Qe) ต่อกิโลกรัมสูงกว่า ทำให้เหมาะกับระบบที่ต้องการการระบายความร้อนสูงในปริมาณสารทำความเย็นต่ำ เช่นรถ EV, ตู้แช่ หรือระบบที่ต้องการลด charge weight
---
4. Refrigerant Mass Flow Rate
R134a: 0.03084 kg/s
R1234yf: 0.04171 kg/s
DAYTONA-1 R134a/R1234yf: 0.02524 kg/s
DAYTONA-1 R134a/R1234yf ใช้ mass flow rate ต่ำที่สุดแต่ให้ Qe สูงสุด ให้ความเย็นมากในปริมาณน้ำยาน้อย — ลดภาระต่อคอมเพรสเซอร์ และลดต้นทุนค่าสารทำความเย็นโดยตรงในระบบขนาดใหญ่
----
5. Volumetric Cooling Capacity
R134a: 1843.6 kJ/m³
R1234yf: 1664.9 kJ/m³
DAYTONA-1 R134a/R1234yf: 1801.5 kJ/m³
แม้ DAYTONA-1 R134a/R1234yf มีค่าใกล้เคียง R134a แต่ดีกว่า R1234yf อย่างชัดเจน ทำให้เหมาะกับการใช้งานในระบบที่ต้องการความเย็นอัดแน่นต่อขนาดท่อดูด เช่น รถยนต์หรือเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก
---
6.ค่าความดันด้านอัดออก (Discharge Pressure / P3):
สารทำความเย็น ความดันอัดออก (P3) หน่วย
R134a
1406.9 kPa ≈ 14.07 bar ≈ 204 psia ≈ 189.3 psig
R1234yf
1395.4 kPa ≈ 13.95 bar ≈ 202.3 psia ≈ 187.6 psig
DAYTONA-1
1320.2 kPa ≈ 13.20 bar ≈ 191.4 psia ≈ 176.7 psig
- แรงดันอัดออกต่ำที่สุดในกลุ่ม
DAYTONA-1 มีแรงดันอัดออกเพียง 1320.2 kPa (≈ 13.20 bar หรือ 176.73 psig) ต่ำกว่า R134a ประมาณ 6.6% และต่ำกว่า R1234yf ประมาณ 5.8% ที่อ่านได้จาก Manifold gauge
- ผลดีต่ออายุการใช้งานคอมเพรสเซอร์
แรงดันต่ำ = แรงต้านทานต่อการอัดน้อยลง
ลดภาระของซีล ลูกปืน และวาล์ว
ความเค้นภายในลดลง คอมเพรสเซอร์ไม่ต้องทำงานหนัก
- ลดโอกาสการรั่วในระบบ
ระบบที่ใช้แรงดันต่ำกว่า มีแนวโน้มรั่วซึมน้อยกว่า
เหมาะกับงาน retrofit ที่ต้องการใช้น้ำยาทดแทนโดยไม่ต้องเสริมความแข็งแรงของท่อเดิม ความปลอดภัยของอุปกรณ์และท่อทองแดง ระบบที่เคยใช้ R134a หรือ R1234yf อยู่แล้ว สามารถใช้ DAYTONA-1 R134a/R1234yf ได้โดยไม่เสี่ยงต่อการแตกรั่วหรือ overpressure
---
7.อุณหภูมิ Superheat บริเวณทางออกของคอนเดนเซอร์ (Condenser Superheat)
DAYTONA-1 (12.9°C):
แม้จะมีค่า Condenser Superheat สูงที่สุดในกลุ่ม “สมดุลใหม่” ของระบบที่ใช้การบริหารจัดการแรงดันต่ำกว่า R134a และ R1234yf เข้าชดเชยไอความร้อนยวดยิ่งที่ Condenser (ข้อ 6)
ความดันที่ลดลงนี้ มีผลอย่างตรงไปตรงมาในการลดอุณหภูมิ discharge เพราะอุณหภูมิสุดท้ายของแก๊สอัดขึ้นอยู่กับพลังงานที่ถูกบีบอัด + แรงต้านจากระบบ (P3) ดังนั้นแม้จะมีค่า Condenser Superheat สูงกว่า แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดการสะสมพลังงานร้อนในระดับที่อันตราย เนื่องจาก Pressure ที่ต่ำกว่า
นี่คือคุณสมบัติพิเศษของ DAYTONA-1 ซึ่ง “เลือกที่จะมี Superheat สูงขึ้นในคอนเดนเซอร์” เพื่อแลกกับการ ลดแรงดันและอุณหภูมิการอัดออกโดยรวม สะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบเพื่อสมดุลของการจัดการด้านการระบายความร้อน
มุมมองจากการใช้งานจริง: Discharge Temp ไม่ได้สูงเกิน 65°C ข้อมูลจากการทดสอบจริงในภาคสนามยืนยันว่า แม้ค่าซุปเปอร์ฮีทของ DAYTONA-1 จะอยู่ที่ 12.9°C แต่ในระบบที่มีการแลกเปลี่ยนความร้อนดีพอ อุณหภูมิ Discharge Temp จากหัวคอมเพรสเซอร์ ไม่เคยเกิน 65°C ไม่ว่าจะใช้ในรถยนต์ หรือระบบอีแวปขนาดเล็ก
- Condenser Superheat ที่สูงขึ้นใน DAYTONA-1 แต่กลับมีแรงดันระบบที่ต่ำกว่า → ลดภาระการอัด
การถ่ายเทความร้อนออกจากคอนเดนเซอร์ที่มีประสิทธิภาพ การกระจายพลังงานที่ถูกออกแบบมาโดยสมดุลใหม่ทางวิศวกรรม
8.XQ (Dryness Fraction)
R1234yf = 0.435 ไอมากที่สุด
R134a = 0.365 ไอปานกลาง
DAYTONA-1 = 0.337 ไอน้อยที่สุด
ตัวที่อยู่ในสถานะของของเหลวมากที่สุด จะสามารถแลกเปลี่ยนความร้อนได้ดีที่สุด (ตัวเลขใกล้ 0) เพราะมันยังไม่ระเหยกลายเป็นไอ ทำให้ดูดซับความร้อนในอีแวปได้ช้ากว่าและนานกว่า ส่งผลให้ Qevap สูงกว่าและประสิทธิภาพการทำความเย็นดีกว่า
พิจารณาคุณสมบัติเชิงเทอร์โมไดนามิกส์โดยรวม DAYTONA-1 R134a/R1234yf มีศักยภาพสูงกว่า R134a และ R1234yf ในทุกมิติ:
DAYTONA-1 R134a/R1234yf
- ให้ Qevap สูงสุด ขณะที่ใช้พลังงานต่ำสุด
- มี Volumatric Capacity น้อยกว่า R134a เล็กน้อย การใช้งานในระบบ Chiller R134a จึงเหมาะสมกว่า
- มี COP สูงกว่า สะท้อนถึงประสิทธิภาพระบบ
- ใช้ปริมาณสารน้อยที่สุดแต่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุดในระบบแอร์รถยนต์ ICE, HEV, PHEV แอร์รถไฟฟ้า BEV, EV
- สามารถลดต้นทุนการผลิตในการทำความร้อนคอมเพรสเซอร์และค่าไฟ
- เป็นสารทำความเย็นในกลุ่ม A1 (AIT 660°C) มีความปลอดภัยขั้นสูงสุด
บริษัท บูรณิน อินดัสทรี จำกัด
www.blueplanet.co.th
+662 8884700